หลายๆท่านอาจเข้าใจว่าการซื้อประกันสุขภาพ เป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อความคุ้มครอง ถ้าปีไหนไม่ได้เจ็บป่วย ประกันสุขภาพปีนั้น ก็เหมือนเป็นการจ่ายเงินทิ้งไปเฉยๆ แต่ทราบมั้ยคะว่า
มีแบบประกันที่มีความพิเศษ สามารถช่วยลดความกังวลตรงจุดนี้ได้
ประกันแบบที่ว่านี้เรียกว่า ยูนิตลิงค์ Unit-Linked เป็นประกันควบการลงทุน
(ประกัน + การลงทุน)
#เป็นประกัน เพราะ ลูกค้าจะถือกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลอยู่ 1 เล่ม
#ควบการลงทุน เพราะ มีการเอาเบี้ยประกันที่เหลือหลังหักค่าใช้จ่าย ไปลงทุนในกองทุนรวม
เพื่อให้มีเรามีโอกาสลงทุนสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคาร
และนอกจากนี้ เรายังสามารถนำเงินในกองทุนรวมนี้กลับมาจ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันของเราเองได้ในภายหลัง ถ้ามูลค่าหน่วยลงทุนของเรามีเพียงพอ**
ข้อดีของการทำประกันสุขภาพแบบ ยูนิตลิงค์คือ1. เบี้ยโดยรวมที่ต้องจ่ายทั้งหมดถูกกว่าเบี้ยแบบปีต่อปีหากเอาเบี้ยประกันยูนิตลิงค์ที่ต้องจ่ายทุกปีมารวมกัน เทียบกับเบี้ยประกันสุขภาพแบบปกติที่ปรับแพงขึ้นตามอายุและต้องจ่ายทิ้งทุกปีมารวมกัน
พบว่าเบี้ยรวมของยูนิตลิงค์นั้นถูกกว่า และการที่มีเงินบางส่วนไปลงทุนในกองทุนรวม
เงินตรงนี้เราสามารถเอามาจ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันในปีหลังๆทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมนั้นถูกกว่าแบบประกันแบบปกติ
2. เบี้ยคงที่ ง่ายต่อการวางแผนเบี้ยประกันแบบยูนิตลิงค์คงที่นับตั้งแต่อายุที่ซื้อ ยิ่งซื้อเร็วเท่าไหร่ เบี้ยก็ยิ่งถูกมากเท่านั้น
แถมการที่เราทราบจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายเบี้ยประกันล่วงหน้าทุกปี ก็ยังช่วยทำให้เราเตรียมเงินสำหรับจ่ายเบี้ยได้ง่ายขึ้นด้วย
เบี้ยประกันคงที่ ไม่ต้องกังวลว่าเบี้ยจะปรับแพงขึ้นตามอายุอีก
3. มีความยืดหยุ่นเรื่องการถอนเงินอย่างที่อธิบายให้ฟังเบื้องต้นว่า เบี้ยบางส่วนที่เรานำไปจ่ายประกันสุขภาพนั้นหลังหักค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยจะนำไปลงทุนในกองทุนรวม
เพราะฉะนั้นเราจะมีเงินที่อยู่ในกองทุนรวม ถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ เราก็ยังสามารถถอนเงินออกมาเมื่อไรก็ได้ โดยการขายหน่วยลงทุนที่เรามี
เช่น ถ้าเรามีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ 2 แสน ช่วงนี้เราอยากใช้เงินสัก 1 แสน ก็แค่ส่งคำสั่งขายหน่วยลงทุนที่เรามีออกมาใช้
ผิดกับประกันแบบสะสมทรัพย์ที่ต้องรอครบสัญญาถึงได้เงินก้อนตามสัญญา ถอนก่อนไม่ได้
สรุป ยูนิตลิงค์มีข้อดีคือ1. เบี้ยไม่จ่ายทิ้งเพราะเบี้ยหลังหักค่าใช้จ่ายในการทำประกันภัยจะไปลงทุนในกองทุนรวม ทำให้เมื่อระยะเวลาผ่านไป ลูกค้าจะมีพอร์ทกองทุนรวมอยู่
มีเงินสามารถถอนมาใช้ได้ ไม่เหมือนแบบประกันแบบปกติที่จะไม่มีเงินสะสมแบบนี้
2. หยุดจ่ายก็มีค่ารักษาโดยการดึงกองทุนที่เรามีมาจ่ายค่าการประกันภัย หากวางแผนดีๆสามารถเป็นสวัสดิการระยะยาวให้เราได้
3. มีโอกาสสร้างผลตอบแทนในกองทุนรวมซึ่งถ้าเราสม่ำเสมอ และเลือกกองทุนที่ดี ก็จะเป็นเงินสำรองไว้ใช้ยามจำเป็นหรือใช้จ่ายในวัยเกษียณได้
4. มีความยืดหยุ่นสามารถถอนเงินออกมาเมื่อไรก็ได้ เพียงแค่ขายกองทุนรวมที่เรามีออกมา

สรุปข้อดี : แผนสุขภาพ แบบ 4 คุ้ม หมดกังวลทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นค่าห้องหรือค่ารักษาคุ้ม 1 การจ่ายเบี้ย
จ่ายเบี้ยคงที่ตลอดสํญญา
มีโอกาสหยุดพักชำระเบี้ย ณ อายุ 60 ปี
เบี้ยรวมตลอดทั้งโครงการเพียง 3.54 ล้านบาท **ถ้าซื้อ Elite Health แยกต้องจ่าย 10.43 ล้านบาท
คุ้ม 2 ค่าห้องค่ารักษา
ค่าห้อง 10,000 บาทต่อวัน
ค่ารักษาพยาบาลคุ้มครองวงเงิน 20 ล้านบาท
คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี
คุ้ม 3 ความคุ้มครองชีวิต
มีทุนชีวิตให้ผู้รับผลประโยชน์
คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี
คุ้ม 4 มูลค่าบัญชีกรมธรรม์
มีมูลค่ากรมธรรม์สามารถถอนเงินได้